5 เคล็ดลับเลือกซื้อบ้านสำหรับคนที่เน้นเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ 

5 เคล็ดลับเลือกซื้อบ้านสำหรับคนที่เน้นเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ 

อยู่แบบไม่มีรถ…ก็สบายได้ ถ้าเลือกบ้านเป็น 

การเลือกซื้อบ้าน คือหนึ่งในการตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิต เพราะนอกจากจะเป็นที่อยู่อาศัยระยะยาวแล้ว ยังเป็นทรัพย์สินที่ใช้เงินก้อนใหญ่ และมีภาระผูกพันระยะยาว ซึ่งการจะ “ย้าย” หรือ “เปลี่ยนใจ” หลังซื้อไปแล้วก็ไม่ใช่เรื่องง่าย 

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับคนที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว การเลือกบ้านจึงต้องคิดรอบด้านยิ่งกว่าปกติ เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตได้สะดวกสบายโดยไม่รู้สึกว่า “ชีวิตลำบากเพราะไม่มีรถ” 

วันนี้เราจึงอยากมาแนะนำ 5 เคล็ดลับการเลือกบ้านให้เหมาะกับคนที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว ว่าแบบไหนที่ควรเลือก แบบไหนที่ควรเลี่ยง เพื่อให้บ้านที่คุณซื้อกลายเป็น “บ้านในฝัน” ไม่ใช่ “บ้านที่ต้องทนอยู่” 

1. เลือกซื้อบ้านใกล้ที่ทำงานไว้ก่อน ชีวิตจะง่ายขึ้นเยอะ

หากไม่มีรถยนต์ส่วนตัว บ้านที่ใกล้ที่ทำงานคือทางเลือกที่คุ้มค่าที่สุด เพราะช่วยให้คุณลดเวลาการเดินทางในแต่ละวัน ไม่ต้องเผื่อเวลารถติดหลายชั่วโมง หรือเหนื่อยกับการเดินทางหลายต่อ 

ประโยชน์เพิ่มเติม : 

  • ประหยัดค่าเดินทาง 
  • มีเวลาพักผ่อนมากขึ้น 
  • ลดความเครียดจากการเดินทางประจำวัน 

2. เดินทางง่าย ด้วยขนส่งสาธารณะ 

ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า MRT, BTS, รถเมล์ หรือแม้แต่วินมอเตอร์ไซค์ การเลือกบ้านที่เข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะได้ง่ายถือเป็นหัวใจของการใช้ชีวิตแบบไม่มีรถ 

เคล็ดลับเพิ่มเติม : 

  • ตรวจสอบว่าบ้านห่างจากจุดขึ้นรถกี่เมตร? 
  • มีรถโดยสารผ่านกี่สาย? 
  • มีเส้นทางสำรองหากต้องเปลี่ยนเส้นทางไหม? 

3. บ้านต้องราคาพอเหมาะ เผื่ออนาคตไว้ด้วย 

บ้านคือหนี้ระยะยาว ดังนั้นต้องเลือกบ้านที่ราคาไม่เกินกำลังผ่อนของคุณ และเผื่อภาระหนี้ในอนาคต เช่น ค่าต่อเติมบ้าน ค่าซื้อรถ หรือค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน 

หลักการง่ายๆ : 

  • ผ่อนบ้านไม่ควรเกิน 30-40% ของรายได้ 
  • เหลือเงินเก็บสำรองทุกเดือน 
  • อย่าทุ่มหมดหน้าตักกับบ้านหลังแรก 

4. ขนาดบ้านต้องเหมาะกับผู้อยู่อาศัย 

ถ้าอยู่คนเดียวหรืออยู่แบบคู่รัก คอนโดหรือทาวน์โฮมขนาดกะทัดรัดอาจเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ากว่า ในขณะที่ถ้าอยู่กับครอบครัวใหญ่ บ้านเดี่ยวหรือทาวน์โฮมสองชั้นก็อาจตอบโจทย์ได้ดีกว่า 

ข้อควรคิด : 

  • อย่าเลือกบ้านใหญ่เกินความจำเป็น (ภาระเพิ่มโดยไม่จำเป็น)
  • วางแผนเผื่ออนาคต เช่น การมีลูก การดูแลพ่อแม่

5. ความปลอดภัย และสภาพแวดล้อมต้องมาก่อน 

แม้บ้านจะอยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวกแค่ไหน แต่หากขาดเรื่องความปลอดภัย หรือมีเพื่อนบ้านไม่น่าไว้วางใจ ก็อาจกลายเป็นภาระใจในระยะยาวได้เช่นกัน 

สิ่งที่ควรตรวจสอบ : 

  • บริเวณรอบบ้านมีแสงสว่างเพียงพอหรือไม่? 
  • มี รปภ. หรือระบบกล้องวงจรปิดไหม? 
  • เพื่อนบ้านมีความเป็นมิตรหรือไม่? 

สรุปส่งท้าย 

การไม่มีรถยนต์ไม่ได้แปลว่าคุณจะไม่มีทางใช้ชีวิตในบ้านได้อย่างมีความสุข เพียงแค่ต้องวางแผนให้รอบคอบกว่าเดิมเล็กน้อย เลือกบ้านให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ และไม่มองข้ามเรื่องความปลอดภัยและการเดินทาง แต่เหนือสิ่งอื่นใด การได้บ้านที่พร้อมอยู่จากการตรวจสอบที่ดีตามมาตรฐานโดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญก็ยังเป็นเรื่องสำคัญที่มองข้ามไม่ได้ เพียงเท่านี้… “บ้านในฝัน” ของคุณก็จะกลายเป็น “บ้านที่อยู่จริงแล้วมีความสุข” ได้ ไม่ใช่บ้านที่มาพร้อมปัญหาบานปลายอย่างแน่นอนครับ 

ติดตามพวกเราได้อีกช่องทางที่ เพจเฟซบุ๊ค : WENAT รับตรวจบ้าน ตรวจคอนโด รับตรวจสอบอาคาร

อยากรู้จักเรา : เกี่ยวกับเรา

โปรโมชั่นดีๆจาก Wenat

โปรโมชั่นลด 1,000.- บาท Wenat
โปรโมชั่นลด 800.- บาท Wenat
โปรโมชั่นลดตรวจฟรีรอบสอง Wenat

บทความที่เกี่ยวข้อง