การเปลี่ยนไฟฟ้า 1 เฟส เป็นไฟฟ้า 3 เฟส : สิ่งที่เจ้าของบ้านควรรู้ก่อนตัดสินใจ
ระบบไฟฟ้าในบ้านพักอาศัยโดยทั่วไปในประเทศไทยจะเป็นระบบไฟฟ้า 1 เฟส ซึ่งเพียงพอสำหรับการใช้งานในบ้านทั่วไป เช่น แอร์ ทีวี ตู้เย็น หรือเครื่องซักผ้า แต่ในบางกรณี เช่น การใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้ากำลังสูงหลายตัวพร้อมกัน หรือมีเครื่องจักรประเภทมอเตอร์ขนาดใหญ่ เจ้าของบ้านอาจเริ่มพิจารณาการ เปลี่ยนระบบไฟฟ้าเป็นแบบ 3 เฟส เพื่อรองรับโหลดไฟฟ้าที่มากขึ้น
แต่ก่อนจะดำเนินการเปลี่ยนระบบไฟฟ้า มีรายละเอียดและขั้นตอนต่างๆ ที่เจ้าของบ้านควรทราบก่อนตัดสินใจ บทความนี้จะอธิบายให้เข้าใจง่าย พร้อมขั้นตอนการดำเนินเรื่องกับการไฟฟ้าฯ อย่างครบถ้วนครับ
ระบบไฟฟ้า 1 เฟส กับ 3 เฟส ต่างกันอย่างไร?
รายการเปรียบเทียบ | ไฟฟ้า 1 เฟส (Single Phase) | ไฟฟ้า 3 เฟส (Three Phase) |
ความแรงของกระแสไฟ | แรงดัน 220 โวลต์ | แรงดัน 380 โวลต์ |
จำนวนสายไฟ | 1 สายไฟ + 1 สายนิวทรอล | 3 สายไฟ + 1 สายนิวทรอล |
เหมาะกับ | บ้านพักอาศัยทั่วไป | โรงงาน, อาคารพาณิชย์, บ้านที่ใช้ไฟฟ้าหนัก |
ค่าติดตั้ง | ถูกกว่า | สูงกว่า |
ความเสถียร | พอใช้ได้ | สูงกว่าเมื่อโหลดไฟมาก |
เหตุผลที่ควรเปลี่ยนเป็นไฟฟ้า 3 เฟส
- รองรับโหลดไฟฟ้าจำนวนมากได้
- เหมาะกับบ้านที่ติดตั้งแอร์หลายตัว หรือใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่กินไฟมาก เช่น เครื่องทำน้ำอุ่น เครื่องอัดลม มอเตอร์ ฯลฯ
- ลดความเสี่ยงไฟตก/ไฟกระชาก
- เพราะมีการกระจายโหลดไฟฟ้าในแต่ละเฟสอย่างสมดุล ทำให้ระบบไฟมีเสถียรภาพมากขึ้น
- ลดค่าไฟฟ้าในบางกรณี
- สำหรับบ้านหรืออาคารที่ใช้ไฟฟ้ามาก การเปลี่ยนเป็น 3 เฟสอาจทำให้สามารถใช้มิเตอร์ที่มีอัตราค่าไฟต่ำกว่ามิเตอร์ 1 เฟสบางประเภทได้
- ใช้กับอุปกรณ์เฉพาะทาง
- อุปกรณ์ไฟฟ้าอุตสาหกรรม เช่น เครื่องจักร CNC ปั๊มแรงดันสูง หรือระบบลิฟต์ มักต้องใช้ไฟฟ้า 3 เฟสโดยเฉพาะ
สิ่งที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจเปลี่ยน
1. ระบบไฟฟ้าภายในบ้านต้องออกแบบใหม่
การเปลี่ยนเป็นไฟฟ้า 3 เฟสไม่ได้แค่เปลี่ยนมิเตอร์ แต่ ต้องวางระบบเดินสายใหม่ทั้งหมด โดยแยกวงจรไฟฟ้าแต่ละเฟสให้สมดุล เพื่อป้องกันโหลดเกินที่เฟสใดเฟสหนึ่ง
ตัวอย่าง :
ถ้ามีแอร์ 3 ตัว อาจต้องแยกให้แอร์แต่ละตัวอยู่คนละเฟส เพื่อไม่ให้โหลดไปกระจุกที่เฟสเดียว
2. ต้องใช้ช่างไฟฟ้ามืออาชีพที่มีใบอนุญาต
การเดินระบบไฟฟ้า 3 เฟสมีความซับซ้อน และต้องอิงตามหลักเกณฑ์ของการไฟฟ้าโดยตรง การดำเนินการจึงควรทำโดยช่างไฟฟ้าที่ได้รับใบอนุญาตเท่านั้น เพื่อความปลอดภัย และเพื่อให้ผ่านการตรวจสอบของการไฟฟ้าฯ ได้อย่างไม่มีปัญหา
3. ค่าติดตั้ง และค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น
- ค่าธรรมเนียมเปลี่ยนมิเตอร์ (ขึ้นกับขนาดโหลด)
- ค่าประกันการใช้ไฟฟ้าเพิ่มเติม
- ค่าช่างติดตั้งและวางระบบภายใน
- ค่าอุปกรณ์ เช่น เบรกเกอร์ 3 เฟส, สายไฟ, ตู้เมนใหม่
ขั้นตอนการเปลี่ยนระบบไฟฟ้าเป็น 3 เฟส
1. เตรียมเอกสาร
ก่อนจะไปดำเนินเรื่องกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) หรือการไฟฟ้านครหลวง (MEA) ต้องเตรียมเอกสารดังนี้:
- สำเนาบัตรประชาชน ของเจ้าของบ้าน
- ใบเสร็จค่าประกันการใช้ไฟฟ้า เดิม
- ใบแจ้งค่าไฟฟ้าล่าสุด
- แผนผังระบบไฟฟ้า ที่ออกแบบโดยวิศวกรหรือช่างไฟฟ้า
- แบบขอใช้ไฟฟ้า (ดาวน์โหลดจากเว็บไซต์การไฟฟ้า)
2. ไปแจ้งเรื่องที่สำนักงานการไฟฟ้า
นำเอกสารทั้งหมดไปยื่นที่สำนักงานการไฟฟ้าในพื้นที่ เจ้าหน้าที่จะรับเรื่องและแจ้งให้วิศวกรของการไฟฟ้าลงพื้นที่มาตรวจสอบระบบจริง
3. การไฟฟ้าลงพื้นที่ตรวจสอบ
- ตรวจสอบโหลดไฟฟ้า ความจำเป็นในการเปลี่ยนเป็น 3 เฟส
- ตรวจสอบการเดินระบบในบ้าน และความพร้อมของอุปกรณ์
- หากไม่ผ่าน อาจแจ้งให้ปรับปรุง เช่น เปลี่ยนสายเมน, ติดตั้งกราวด์, แยกเฟสให้ชัดเจน
4. แจ้งผลและชำระค่าธรรมเนียม
หากผ่านการตรวจสอบ การไฟฟ้าจะแจ้งยอดค่าธรรมเนียมต่างๆ และกำหนดวันนัดหมายเพื่อเปลี่ยนมิเตอร์ให้ใหม่
5. ดำเนินการเปลี่ยนมิเตอร์
เมื่อถึงวันนัดหมาย เจ้าหน้าที่จะเข้าทำการเปลี่ยนมิเตอร์ และทดสอบการจ่ายไฟให้เรียบร้อย
ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ
รายการ | ประมาณค่าใช้จ่าย (บาท) |
ค่าธรรมเนียมเปลี่ยนมิเตอร์ | 2,000 – 10,000+ (ขึ้นกับขนาดโหลด) |
ค่าประกันการใช้ไฟเพิ่ม | เริ่มต้น 2,000 บาท |
ค่าช่างและอุปกรณ์ภายใน | 5,000 – 30,000 บาท |
ค่าออกแบบโดยวิศวกร (ถ้าจำเป็น) | 2,000 – 5,000 บาท |
รวมแล้วอาจใช้จ่ายทั้งหมดประมาณ 10,000 – 50,000 บาท ขึ้นอยู่กับลักษณะบ้านและปริมาณการใช้ไฟ
คำแนะนำเพิ่มเติม
- หากใช้งานทั่วไปไม่เกิน 15 แอมป์ และไม่มีอุปกรณ์ไฟฟ้าหนัก การใช้ระบบ 1 เฟส อาจเพียงพออยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน
- แต่หากพบว่าไฟตกบ่อย ใช้เครื่องไฟฟ้าหลายตัวพร้อมกันแล้วเบรกเกอร์ตัด อาจพิจารณาเปลี่ยนเป็น 3 เฟส หรือขอเพิ่มขนาดมิเตอร์แทน
สรุป
การเปลี่ยนระบบไฟฟ้าจาก 1 เฟสเป็น 3 เฟส เป็นเรื่องที่ทำได้จริง และมีประโยชน์ในแง่ของการรองรับโหลดไฟฟ้าที่มากขึ้น แต่ก็ต้อง มีความรู้ ความเข้าใจ และการวางแผนให้ดี เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง และต้องดำเนินการอย่างถูกต้องตามมาตรฐานความปลอดภัย
หากไม่แน่ใจว่าเหมาะกับบ้านคุณหรือไม่ แนะนำให้ปรึกษาช่างไฟฟ้าที่มีใบอนุญาต หรือสอบถามวิศวกรไฟฟ้าโดยตรง หรือสอบถามมาทางเราก็ได้ จะช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นครับ
ติดตามพวกเราได้อีกช่องทางที่ เพจเฟซบุ๊ค : WENAT รับตรวจบ้าน ตรวจคอนโด รับตรวจสอบอาคาร
อยากรู้จักเรา : เกี่ยวกับเรา