ในการอยู่อาศัยภายในบ้านหรืออาคารต่างๆ หนึ่งในสิ่งที่หลายคนอาจไม่ทันได้ใส่ใจนัก แต่กลับมีผลกระทบโดยตรงต่อความปลอดภัยและอายุการใช้งานของเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ก็คือ “แรงดันไฟฟ้า” หรือที่คนทั่วไปมักเรียกกันว่า “โวลต์” นั่นเอง

โวลต์ (Volt) คืออะไร?
โวลต์ (Volt) คือหน่วยวัดของแรงดันไฟฟ้า (Voltage) ซึ่งหมายถึงความต่างศักย์ไฟฟ้าระหว่างจุดสองจุด เป็นตัวกำหนดว่า กระแสไฟฟ้าจะไหลมากน้อยเพียงใด กล่าวง่ายๆ แรงดันไฟฟ้าก็เหมือนกับ “แรงดันน้ำ” ที่จะผลักดันให้น้ำไหลผ่านท่อ เช่นเดียวกับแรงดันไฟฟ้าที่ผลักดันให้กระแสไฟไหลผ่านสายไฟเข้าสู่เครื่องใช้ไฟฟ้า
โวลต์มีหน้าที่อย่างไรในระบบไฟฟ้า?
โวลต์เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการทำงานของอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิด หากแรงดันไฟฟ้าน้อยเกินไป (ไฟตก) เครื่องใช้ไฟฟ้าจะทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ หรืออาจไม่ทำงานเลย เช่น หลอดไฟที่หรี่ลง พัดลมที่หมุนช้าลง หรือเครื่องปรับอากาศที่ไม่เย็น ในทางกลับกัน หากแรงดันไฟฟ้าสูงเกินไป (ไฟเกิน) ก็จะก่อให้เกิดความเสียหายกับแผงวงจรภายในของอุปกรณ์ ทำให้เกิดความร้อนสูง เสี่ยงต่อการไหม้ หรือแม้แต่ไฟฟ้าลัดวงจรที่อาจก่อให้เกิดไฟไหม้ได้
แรงดันไฟฟ้าในประเทศไทย และค่ามาตรฐานที่ควรรู้
ค่าแรงดันไฟฟ้ามาตรฐานในบ้าน
แรงดันไฟฟ้ามาตรฐานของประเทศไทยอยู่ที่ 220 โวลต์ และความถี่ 50 เฮิรตซ์ (Hz) ซึ่งถือเป็นค่ากลางสำหรับการใช้งานในครัวเรือน โดยเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไปจะถูกออกแบบมาให้รองรับแรงดันไฟฟ้านี้
ความผันผวนของแรงดันไฟฟ้า
แม้ว่าค่ามาตรฐานจะกำหนดไว้ที่ 220 โวลต์ แต่ในความเป็นจริง ค่าแรงดันไฟฟ้าอาจผันผวนได้ตามช่วงเวลา เช่น ช่วงเย็นที่มีการใช้ไฟฟ้าสูงมาก ค่าความต่างศักย์ไฟฟ้าอาจลดลงมาเหลือเพียง 200 โวลต์ หรือบางพื้นที่อาจเกิน 230 โวลต์ หากอุปกรณ์ไม่สามารถรองรับช่วงแรงดันที่เปลี่ยนแปลงได้ ก็อาจเกิดความเสียหายขึ้น
ไฟตก ไฟเกิน อันตรายอย่างไร?
ไฟตก (Undervoltage)
ไฟตกคือภาวะที่แรงดันไฟฟ้าต่ำกว่าระดับปกติ เช่น จาก 220V เหลือ 180V หรือ 160V สาเหตุอาจมาจากการใช้ไฟเกินกำลังในบริเวณนั้น หรือระบบไฟฟ้าเก่าที่มีแรงต้านสูง
ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
- มอเตอร์เครื่องใช้ไฟฟ้าหมุนช้าและร้อน
- คอมเพรสเซอร์แอร์เกิดความเสียหาย
- หลอดไฟสว่างไม่เต็มที่
- เครื่องสำรองไฟ UPS ส่งเสียงเตือนบ่อย
ไฟเกิน (Overvoltage)
ไฟเกิน คือแรงดันไฟฟ้าสูงกว่าปกติ เช่น สูงถึง 240V หรือมากกว่านั้น เกิดได้จากเหตุการณ์เช่น ฟ้าผ่า การจ่ายไฟฟ้าผิดพลาด หรือเมื่อเปิด-ปิดเครื่องจักรขนาดใหญ่
ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
- ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ไหม้หรือลัดวงจร
- แผงวงจรเสียหายแบบถาวร
- อุปกรณ์บางชนิดระเบิดหรือเกิดประกายไฟ
- เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดไฟไหม้
วิธีการป้องกันแรงดันไฟฟ้าผิดปกติ
เพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องใช้ไฟฟ้าของเราต้องรับความเสียหายจากแรงดันไฟฟ้าที่ไม่เสถียร มีวิธีการหลายรูปแบบที่สามารถนำมาใช้ได้ ดังนี้:
1. ติดตั้งเครื่องกันไฟกระชาก (Surge Protector)
เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยป้องกันกระแสไฟกระชากจากฟ้าผ่า หรือการเปิด-ปิดเครื่องจักรขนาดใหญ่ ช่วยยืดอายุเครื่องใช้ไฟฟ้าและเพิ่มความปลอดภัย
2. ใช้เครื่องสำรองไฟ (UPS)
โดยเฉพาะสำหรับอุปกรณ์สำคัญ เช่น คอมพิวเตอร์, Router, CCTV เพราะ UPS จะทำหน้าที่จ่ายไฟสำรองชั่วคราว และช่วยควบคุมแรงดันให้เสถียร
3. ติดตั้งระบบกราวด์ (Grounding)
เป็นการเดินสายดินที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันไฟรั่วไฟดูด และลดความเสียหายจากไฟฟ้าลัดวงจร
4. ตรวจสอบแรงดันไฟฟ้าเป็นระยะ
สามารถติดตั้งอุปกรณ์วัดแรงดันไฟฟ้าหรือ Volt meter ไว้ที่ตู้ไฟ เพื่อดูว่าแรงดันในบ้านคงที่หรือไม่ หากพบความผิดปกติ ควรแจ้งช่างไฟฟ้าผู้เชี่ยวชาญทันที
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับแรงดันไฟฟ้า
หลายคนมักเข้าใจว่า กระแสไฟฟ้า (Ampere) คือสิ่งเดียวกับแรงดันไฟฟ้า (Volt) ซึ่งไม่ใช่ ความเข้าใจที่ถูกต้องคือ:
- แรงดันไฟฟ้า (Volt) คือ “แรงผลัก”
- กระแสไฟฟ้า (Ampere) คือ “ปริมาณไฟที่ไหล”
- กำลังไฟฟ้า (Watt) คือ ผลคูณของ Volt x Ampere
ดังนั้น การเลือกใช้อุปกรณ์ให้เหมาะสมจึงต้องดูทั้งแรงดัน และกระแสของเครื่องใช้ไฟฟ้า เพื่อไม่ให้ระบบเกิดความผิดปกติ
ตัวอย่างความเสียหายที่เกิดจากแรงดันไฟฟ้าผิดปกติ
- แอร์เปิดติดแต่ไม่เย็น – ไฟตกทำให้คอมเพรสเซอร์ไม่ทำงาน
- ทีวีไหม้หลังฟ้าผ่า – ไม่มีอุปกรณ์กันไฟกระชาก
- ตู้เย็นเสียงดังผิดปกติ – มอเตอร์ทำงานหนักจากแรงดันไฟไม่พอ
- ปลั๊กพ่วงละลาย – รับแรงดันไฟเกินขีดจำกัด
สรุป : แรงดันไฟฟ้าเรื่องใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้าม
แม้ว่าโวลต์หรือแรงดันไฟฟ้าอาจดูเป็นเรื่องเทคนิคที่ไกลตัว แต่จริงๆ แล้วเกี่ยวข้องโดยตรงกับความปลอดภัย ความคุ้มค่า และความยาวนานในการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชิ้นในบ้าน การดูแลให้ระบบไฟฟ้ามีแรงดันที่เหมาะสม ไม่ต่ำหรือสูงจนเกินไป จึงเป็นหนึ่งในพื้นฐานสำคัญของการอยู่อาศัยอย่างปลอดภัยในระยะยาว
หากคุณไม่แน่ใจว่าไฟในบ้านของคุณมีแรงดันที่เหมาะสมหรือไม่ การให้วิศวกร หรือช่างไฟฟ้ามาตรวจสอบเป็นประจำ ปีละ 1-2 ครั้ง ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ และช่วยป้องกันปัญหาที่อาจสร้างความเสียหายอย่างคาดไม่ถึงได้
ติดตามพวกเราได้อีกช่องทางที่ เพจเฟซบุ๊ค : WENAT รับตรวจบ้าน ตรวจคอนโด รับตรวจสอบอาคาร
อยากรู้จักเรา : เกี่ยวกับเรา