เราอาจคุ้นหูกับชื่อของวิชาชีพในสายงานก่อสร้างอย่าง “วิศวกร” “สถาปนิก” และ “มัณฑนากร” กันมาบ้างแล้ว แต่คำถามคือ…เรารู้จักหน้าที่ของแต่ละวิชาชีพในงานก่อสร้างกันมากน้อยแค่ไหน? แต่ละคนทำอะไร? ต่างกันอย่างไร? จำเป็นต้องจ้างครบทุกคนหรือไม่? 

บทความนี้จะชวนคุณมา “รู้จักตัวจริง” ของแต่ละบทบาทในงานก่อสร้าง เพื่อให้เจ้าของบ้านหรือผู้ที่กำลังวางแผนสร้างบ้าน มีความเข้าใจและสามารถเลือกใช้บริการได้อย่างเหมาะสม ครบถ้วน และคุ้มค่า 

การเปรียบเทียบวิชาชีพกับโครงสร้างของร่างกายมนุษย์ 

ถ้าเราจะเปรียบ งานก่อสร้าง เสมือนกับ “ร่างกายของมนุษย์” วิชาชีพทั้งสามนี้ก็อาจจะเปรียบได้ดังนี้ : 

  • วิศวกร ก็เปรียบเสมือน “กระดูก” และ “ระบบประสาท” ที่เป็นโครงร่างและกลไกหลักของร่างกาย 
  • สถาปนิก คือ “ผิวหนัง รูปร่าง และอวัยวะภายนอก” ที่ทำให้เราดูดีและใช้งานได้ตามความต้องการ 
  • มัณฑนากร คือ “เสื้อผ้า เครื่องประดับ” ที่เสริมบุคลิก สะท้อนรสนิยม และเพิ่มความน่าอยู่ให้กับตัวบ้าน 

เมื่อร่างกายทั้งสามระบบนี้ทำงานสอดประสานกันได้อย่างดี ก็จะกลายเป็น “บ้านที่สวยงาม แข็งแรง และน่าอยู่” ในแบบที่เจ้าของบ้านต้องการนั่นเอง 

1. วิศวกร – ผู้สร้างรากฐาน และความมั่นคงของบ้าน 

บทบาทของวิศวกร 

วิศวกรในสายงานก่อสร้าง (ส่วนใหญ่หมายถึง “วิศวกรโยธา”) คือผู้ที่รับผิดชอบด้านโครงสร้างของอาคารทั้งหมด ตั้งแต่เสาเข็ม ฐานราก คาน พื้น โครงหลังคา รวมถึงระบบสาธารณูปโภคต่างๆ เช่น ระบบไฟฟ้า ประปา สุขาภิบาล และป้องกันอัคคีภัย 

หน้าที่ของวิศวกรในงานก่อสร้าง 

  • ออกแบบโครงสร้างอาคารให้มั่นคงปลอดภัย 
  • คำนวณน้ำหนักบรรทุกและแรงกระทำจากธรรมชาติ เช่น แรงลม แผ่นดินไหว 
  • ตรวจสอบหน้างานเพื่อให้การก่อสร้างเป็นไปตามแบบ 
  • ควบคุมคุณภาพวัสดุและขั้นตอนงานก่อสร้างตามหลักวิศวกรรม 

ทำไมจึงต้องมีวิศวกร? 

เพราะโครงสร้างที่แข็งแรงจะป้องกันการทรุดตัว ร้าว หรือถล่ม ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ที่อาจกระทบถึงชีวิตและทรัพย์สิน วิศวกรจะออกแบบโดยใช้มาตรฐานทางวิศวกรรมควบคู่กับความปลอดภัยเป็นหลัก โดยอ้างอิงจากกฎหมายและมาตรฐานอาคารที่ใช้ในประเทศไทย 

2. สถาปนิก – ผู้ออกแบบรูปร่างบ้านให้ตรงใจและใช้งานได้จริง 

บทบาทของสถาปนิก 

สถาปนิกคือผู้ที่แปลงภาพฝันของเจ้าของบ้านให้ออกมาเป็นแบบแปลนที่สวยงาม ใช้งานได้จริง ปลอดภัย และตรงตามงบประมาณที่วางไว้ โดยคำนึงถึงทั้งความงามและฟังก์ชันไปพร้อมกัน 

หน้าที่ของสถาปนิก 

  • ออกแบบแปลน รูปร่าง และรูปทรงของบ้าน 
  • กำหนดขนาดพื้นที่ใช้สอย และตำแหน่งของแต่ละห้อง 
  • เลือกวัสดุตกแต่งภายนอก-ภายในที่เหมาะกับสไตล์บ้าน 
  • ออกแบบทิศทางแสง ลม และความสัมพันธ์ระหว่างพื้นที่ 

สถาปนิกมีผลต่อคุณภาพชีวิตอย่างไร? 

บ้านที่ออกแบบดีจากสถาปนิกจะอยู่สบาย อยู่ได้นาน และช่วยประหยัดพลังงาน เช่น การจัดตำแหน่งหน้าต่างให้รับลม การใช้หลังคาลาดเอียงช่วยระบายน้ำ การเลือกสีอ่อนช่วยลดความร้อน ฯลฯ ซึ่งล้วนส่งผลต่อการอยู่อาศัยในระยะยาว 

3. มัณฑนากร – ผู้ออกแบบภายในเพื่อความสวยงามและน่าอยู่ 

บทบาทของมัณฑนากร 

มัณฑนากร (Interior Designer) คือผู้ที่เข้ามาดูแลเรื่องการตกแต่งภายในบ้านในขั้นตอนสุดท้าย เพื่อเสริมบรรยากาศให้บ้านสวยงาม มีสไตล์ และตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัย 

หน้าที่ของมัณฑนากร 

  • ออกแบบการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ภายใน 
  • เลือกวัสดุปูพื้น วอลเปเปอร์ ผ้าม่าน หรือของตกแต่งอื่นๆ 
  • ออกแบบแสงไฟ (Lighting Design) เพื่อให้เหมาะสมกับกิจกรรมในแต่ละพื้นที่ 
  • ให้คำปรึกษาเรื่องการเลือกสี วัสดุ และ Mood & Tone ของห้องต่างๆ 

มัณฑนากรไม่ใช่แค่ “แต่งบ้านให้สวย” 

มัณฑนากรที่มีประสบการณ์จะเข้าใจเรื่องการใช้งานอย่างลึกซึ้ง เช่น การจัดเฟอร์นิเจอร์ให้มีระยะเดินสะดวก ไม่อึดอัด หรือการออกแบบแสงไฟให้ไม่จ้าเกินไปในห้องนอน สิ่งเหล่านี้ส่งผลโดยตรงต่อความสุขในการใช้ชีวิตประจำวัน 

แล้วเราจำเป็นต้องจ้างทุกวิชาชีพหรือไม่? 

คำตอบคือ “ขึ้นอยู่กับขนาด ความซับซ้อน และเป้าหมายของโครงการ” หากเป็นบ้านเดี่ยวทั่วไปขนาดไม่ใหญ่มาก และเจ้าของบ้านเข้าใจแนวทางออกแบบบ้าง อาจจ้างเฉพาะวิศวกรและผู้รับเหมาได้ในบางกรณี 

แต่ถ้าเจ้าของบ้านต้องการคุณภาพที่ดีทั้งโครงสร้าง รูปลักษณ์ และการตกแต่งภายใน หรือสร้างบ้านบนที่ดินราคาแพง มีข้อจำกัดเยอะ การจ้างครบทั้งสามวิชาชีพก็เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า 

ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพเหล่านี้ 

กฎหมายควบคุมอาคารกำหนดว่า แบบก่อสร้างและเอกสารที่ใช้ยื่นขออนุญาตก่อสร้างจะต้องมีลายเซ็นรับรองจาก 

  • วิศวกร กรณีอาคารที่มีโครงสร้างซับซ้อน 
  • สถาปนิก กรณีอาคารบางประเภท หรือเมื่อใช้แบบมาตรฐานไม่ได้ 
  • และในหลายกรณี ต้องใช้ทั้งสองวิชาชีพร่วมกัน 

ส่วน มัณฑนากร ยังไม่มีกฎหมายบังคับโดยตรง แต่เป็นผู้เชี่ยวชาญที่เข้ามาเสริมคุณภาพของบ้านให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น 

สรุป : บ้านที่ดีต้องอาศัยทีมที่ดี 

การสร้างบ้านไม่ได้ใช้แค่ “แรง” หรือ “เงิน” แต่ต้องอาศัย “ความรู้เฉพาะทาง” จากแต่ละวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง 

  • วิศวกร = ความมั่นคงแข็งแรง 
  • สถาปนิก = ความสวยงามและการใช้งาน 
  • มัณฑนากร = ความลงตัวและความสุขในชีวิตประจำวัน 

สุดท้ายแล้ว ขึ้นอยู่กับเจ้าของบ้านว่าอยากได้บ้านแบบไหน บ้านที่ “สร้างให้เสร็จ” หรือบ้านที่ “สร้างให้อยู่ได้อย่างมีความสุข” หากคำตอบคืออย่างหลัง การมีวิชาชีพทั้งสามนี้ร่วมวางแผนตั้งแต่ต้น จะช่วยให้บ้านของคุณไม่ใช่แค่ที่พักอาศัย แต่คือ “ที่อยู่ที่ดีที่สุด” อย่างแท้จริง 

ติดตามพวกเราได้อีกช่องทางที่ เพจเฟซบุ๊ค : WENAT รับตรวจบ้าน ตรวจคอนโด รับตรวจสอบอาคาร

อยากรู้จักเรา : เกี่ยวกับเรา

โปรโมชั่นดีๆจาก Wenat

โปรโมชั่นลด 1,000.- บาท Wenat
โปรโมชั่นลด 800.- บาท Wenat
โปรโมชั่นลดตรวจฟรีรอบสอง Wenat

บทความที่เกี่ยวข้อง