ในงานก่อสร้างยุคปัจจุบัน “บ้านปูน” หรือ “บ้านคอนกรีต” ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุผลเรื่องความแข็งแรง ทนทาน และสามารถขึ้นรูปให้ตรงกับแบบที่ต้องการได้อย่างยืดหยุ่น วัสดุหลักที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ “ปูนซีเมนต์” ซึ่งถึงแม้ภายนอกจะดูคล้ายกัน คือ เป็นผงสีเทาละเอียด แต่ในความจริงแล้ว ปูนแต่ละชนิดถูกออกแบบมาให้เหมาะกับงานที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน
เพื่อไม่ให้เจ้าของบ้านและผู้ควบคุมงานใช้ปูนผิดประเภท ซึ่งอาจทำให้งานเสียหาย เสียเวลา หรือสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ บทความนี้จึงขอพาไปรู้จักประเภทของปูนซีเมนต์ที่นิยมใช้ในงานก่อสร้าง พร้อมคำแนะนำในการเลือกใช้งานให้ถูกต้อง

กลุ่มที่ 1 : ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ (ปูนสำหรับงานเฉพาะทาง)
1. ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ประเภท 1 – สำหรับงานก่อสร้างทั่วไป
- ใช้กับงานก่อ ฉาบ เท ในบ้านเรือนทั่วไป ถนน สะพาน
- เหมาะสำหรับงานที่ไม่ได้มีข้อจำกัดด้านสภาพแวดล้อม
2. ปูนปอร์ตแลนด์ประเภท 2 – สำหรับงานโครงสร้างที่ต้องทนซัลเฟต
- ทนต่อสารซัลเฟตได้ในระดับปานกลาง
- เหมาะกับโครงสร้างขนาดใหญ่ เช่น เสา ฐานราก เขื่อน หรืออาคารขนาดใหญ่
3. ปูนปอร์ตแลนด์ประเภท 3 – สำหรับงานที่ต้องการให้แข็งตัวเร็ว
- เหมาะกับงานที่ต้องการระยะเวลาก่อสร้างเร็ว เช่น เสาเข็ม พื้นสำเร็จรูป
- ให้กำลังอัดสูงในระยะเวลาอันสั้น
4. ปูนปอร์ตแลนด์ประเภท 4 – สำหรับงานที่ต้องควบคุมความร้อนขณะเซ็ตตัว
- ออกแบบมาให้เกิดความร้อนต่ำขณะทำปฏิกิริยากับน้ำ
- เหมาะกับงานมวลใหญ่ เช่น เขื่อน หรือโครงสร้างที่หนามากๆ ที่ต้องควบคุมไม่ให้เกิดรอยร้าว
5. ปูนปอร์ตแลนด์ประเภท 5 – สำหรับงานที่ต้องต้านทานซัลเฟตสูง
- ใช้ในพื้นที่ดินเค็ม หรือชายฝั่งทะเล
- เหมาะสำหรับเสา ฐานราก หรือองค์ประกอบใกล้น้ำทะเล

กลุ่มที่ 2 : ปูนซีเมนต์อื่นๆ สำหรับงานเฉพาะด้าน
1. ปูนซีเมนต์ผสม (Mixed Cement)
- เป็นการผสมหิน ทราย และวัสดุเฉื่อยอื่นๆ เข้าไป เพื่อให้ปูนมีน้ำหนักเบาลง
- เหมาะกับงานก่อฉาบที่ไม่เน้นโครงสร้างหลัก เช่น งานตกแต่งผิวภายใน
2. ปูนซีเมนต์ขาว
- ให้ผิวสัมผัสที่สว่างและสวยงาม นิยมใช้ในงานตกแต่ง
- เหมาะสำหรับงานประณีต เช่น ทำบัวปูน ตกแต่งแนวรอยต่อ หรือขึ้นรูปปูนโชว์
เคล็ดลับมืออาชีพ : เลือกปูนให้เหมาะกับงาน = ลดความเสี่ยงในการแก้งาน
หนึ่งในจุดเล็กๆ ที่ผู้ตรวจสอบงานก่อสร้างมักให้ความสำคัญ คือ “การใช้ปูนให้ถูกประเภท” เพราะแม้จะดูคล้ายกัน แต่ปูนแต่ละชนิดมีสมบัติเฉพาะตัว การใช้ผิดประเภทอาจทำให้โครงสร้างเสียหายหรืออายุการใช้งานสั้นลงได้
ตัวอย่างเช่น หากใช้ปูนประเภท 1 กับฐานรากในดินเค็ม แทนที่จะเลือกประเภท 5 ที่ทนซัลเฟตสูง ก็อาจทำให้เหล็กในคอนกรีตผุกร่อนได้ในเวลาไม่กี่ปี
สรุป : ปูนก็เหมือนกับยา ต้องใช้ให้ถูกกับ “โรค” ของงานก่อสร้าง
การเลือกใช้ปูนอย่างถูกต้อง ไม่เพียงช่วยให้งานก่อสร้างมีคุณภาพ แต่ยังลดต้นทุนแฝงจากการซ่อมแซมซ้ำซ้อนในอนาคต สำหรับเจ้าของบ้าน และนักลงทุนที่ต้องการให้งานก่อสร้างของตนมีความมั่นคงยาวนาน การทำความเข้าใจ และตรวจสอบว่าผู้รับเหมาใช้ปูนถูกประเภทหรือไม่นั้น ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
ติดตามพวกเราได้อีกช่องทางที่ เพจเฟซบุ๊ค : WENAT รับตรวจบ้าน ตรวจคอนโด รับตรวจสอบอาคาร
อยากรู้จักเรา : เกี่ยวกับเรา