ผนัง Precast คืออะไร? ข้อดี ข้อเสีย และสิ่งที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจสร้างบ้าน
ในปัจจุบัน เราจะพบว่าหลายโครงการบ้านจัดสรร รวมถึงอาคารประเภทต่างๆ เริ่มหันมาใช้ ระบบผนังคอนกรีตสำเร็จรูป หรือ “Precast Concrete” กันมากขึ้น ซึ่งคำนี้หลายท่านคงเคยได้ยินผ่านหู หรือเห็นผ่านตาจากโบรชัวร์บ้านหรือสื่อโฆษณา แต่ยังไม่เข้าใจถึงความหมายหรือข้อดีข้อเสียที่แท้จริง
บทความนี้จะอธิบายตั้งแต่พื้นฐานของผนัง Precast ว่าคืออะไร ดีอย่างไร มีข้อควรระวังในเรื่องไหน และควรตรวจสอบอย่างไรเมื่อมีการใช้งานจริง เพื่อให้เจ้าของบ้านสามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้นครับ
ผนัง Precast คืออะไร?
ผนังพรีแคสท์ (Precast Concrete Wall) คือ แผ่นคอนกรีตเสริมเหล็กที่ถูกหล่อขึ้นมาจากโรงงานโดยตรง ตามแบบที่วิศวกรกำหนดไว้ โดยมีการควบคุมคุณภาพในกระบวนการผลิต ทำให้สามารถนำไปติดตั้งที่หน้างานได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องมีเสาและคานเหมือนโครงสร้างทั่วไป เพราะตัวผนังเองนั้นจะมีโครงสร้างอยู่ภายในแล้ว หรือที่เรียกว่า “Load Bearing Wall” ซึ่งสามารถรับน้ำหนักได้ในตัวของมันเอง
การใช้งานของผนังพรีแคสท์ จึงมักจะเห็นในโครงการที่ต้องการความรวดเร็ว ประหยัดแรงงาน และควบคุมคุณภาพได้ง่าย
ข้อดีของผนัง Precast
- ประหยัดเวลาในการก่อสร้าง
- การผลิตและติดตั้งผนังพรีแคสท์ ใช้เวลาน้อยกว่าการก่ออิฐฉาบปูนแบบเดิมมาก เพราะเป็นการผลิตแบบ “สำเร็จรูป” จากโรงงาน ไม่ต้องรอขั้นตอนการก่อฉาบที่หน้างาน
- ควบคุมคุณภาพได้ดี
- ด้วยการผลิตในโรงงานที่มีระบบควบคุมมาตรฐาน ทำให้แต่ละแผ่นมีความเรียบ ความแข็งแรง และความแม่นยำสูงกว่า
- ความแข็งแรงและทนทาน
- ตัวแผ่นผนังมีการเสริมเหล็กภายใน ทำให้สามารถรับแรงและทนต่อสภาวะอากาศได้ดีกว่าผนังทั่วไป
- ผนังเรียบ สวยงาม
- ผนังที่ออกมาจากโรงงานจะมีความเรียบเนียนมาก ช่วยลดปริมาณงานฉาบ และลดต้นทุนในงานตกแต่ง
- กันเสียงได้ดีกว่าผนังบางประเภท
- เพราะมีความหนาและเนื้อแน่นของคอนกรีต ช่วยกันเสียงได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งเหมาะกับบ้านทาวน์โฮมหรือบ้านที่อยู่ติดกัน
ข้อควรระวัง และข้อเสียของผนังพรีแคสท์
แม้ผนังพรีแคสท์ จะมีข้อดีหลายอย่าง แต่ก็ยังมีข้อจำกัดและข้อควรระวังที่เจ้าของบ้านควรรู้ก่อนตัดสินใจ ดังนี้
- ไม่เหมาะกับการต่อเติม
- เนื่องจากตัวแผ่นผนังมีเหล็กเสริมและทำหน้าที่รับน้ำหนัก หากต้องการเจาะหรือทุบ อาจส่งผลกระทบต่อโครงสร้างโดยรวม หรืออาจเกิดความเสียหายกับระบบเหล็กภายในได้
- สะสมความร้อนได้มาก
- เนื่องจากเป็นคอนกรีตหนา ความสามารถในการถ่ายเทความร้อนต่ำ จึงมีแนวโน้มที่จะสะสมความร้อนและทำให้บ้านร้อนขึ้น โดยเฉพาะในเวลากลางวัน
- ข้อจำกัดในการปรับเปลี่ยน Lay-out
- การวางแผนตำแหน่งของห้อง หรือช่องเปิด (ประตู-หน้าต่าง) ต้องแม่นยำตั้งแต่แบบก่อสร้าง เพราะไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้ง่ายเหมือนระบบอิฐก่อ
- รอยต่อระหว่างแผ่นอาจเกิดการรั่วซึม
- จุดอ่อนของผนังพรีแคสท์ มักจะอยู่ที่ “รอยต่อแผ่น” ซึ่งต้องใช้วัสดุกันซึมที่มีคุณภาพ และติดตั้งอย่างถูกวิธีเท่านั้น จึงจะสามารถป้องกันการรั่วซึมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วิธีตรวจสอบรอยต่อผนังพรีแคสท์
การป้องกันปัญหารอยรั่วของ Precast ต้องเริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการก่อสร้าง โดยการ ตรวจสอบการลงวัสดุกันซึม (Sealant) ที่ใช้ปิดรอยต่อระหว่างแผ่น ซึ่งในทางปฏิบัติสามารถทำได้ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 : ตรวจขณะก่อสร้าง
- ดูว่าช่างใช้วัสดุประเภทไหน เช่น PU Sealant ที่เหมาะกับรอยต่อคอนกรีต
- ตรวจว่าลง Sealant เต็มร่องหรือไม่
- ตรวจความสะอาดของรอยต่อก่อนลง Sealant ว่าแห้ง สะอาด ไม่มีฝุ่นหรือน้ำ
- ตรวจสอบว่าความกว้างรอยต่อไม่เกินกว่าค่าที่กำหนด (โดยทั่วไปไม่ควรเกิน 2-3 ซม.)
ขั้นตอนที่ 2 : ตรวจหลังเข้าอยู่อาศัย
- สังเกตคราบรั่วซึมหรือเชื้อราตามแนวรอยต่อ
- ใช้วิธีฉีดน้ำแรงดันสูงใส่แนวรอยต่อแล้วตรวจด้านในว่ามีน้ำซึมหรือไม่
- หากเป็นหน้าฝน อาจรอดูการซึมจริงขณะฝนตก (แนะนำให้ทำหลังรับมอบไม่นาน)
วัสดุกันซึมที่ใช้ในรอยต่อ Precast
หนึ่งในวัสดุยอดนิยมคือ Polyurethane Sealant (PU Sealant) ซึ่งมีคุณสมบัติยืดหยุ่น ยึดเกาะได้ดี และสามารถรับการขยับของรอยต่อระหว่างแผ่นได้ในระดับหนึ่ง แต่อาจเสื่อมสภาพเมื่อโดนแดด-ฝน เป็นเวลานาน
ข้อผิดพลาดที่พบได้บ่อยในการใช้งาน PU Sealant ได้แก่ :
- ลง Sealant ไม่เต็มร่อง
- ลง Sealant ขณะผิวเปียกหรือมีฝุ่น
- ใช้ Sealant คุณภาพต่ำ
- ความห่างรอยต่อมากเกินไปจน Sealant ดึงตัวแล้วแตกร้าว
- ใช้วัสดุไม่เหมาะสมกับรอยต่อคอนกรีต
ผนังพรีแคสท์ เหมาะกับใคร?
- โครงการบ้านจัดสรรขนาดใหญ่ ที่เน้นความเร็ว ประหยัดแรงงาน และควบคุมต้นทุน
- ผู้ที่ไม่วางแผนต่อเติมในอนาคต
- ผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสียงดัง เช่น ใกล้ถนนใหญ่ เนื่องจากผนังกันเสียงได้ดีกว่าบางระบบ
สรุป : ผนังพรีแคสท์ ดีไหม?
ผนังพรีแคสท์ ถือเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้การก่อสร้างมีประสิทธิภาพมากขึ้นในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรวดเร็ว ความแม่นยำ และคุณภาพของพื้นผิว แต่ในขณะเดียวกัน เจ้าของบ้านควรเข้าใจข้อจำกัดและข้อควรระวัง โดยเฉพาะเรื่องรอยต่อผนัง และความยากในการต่อเติมแก้ไข
สุดท้ายนี้ หากบ้านที่คุณสนใจเป็นแบบ Precast อย่าลืมสอบถามรายละเอียดจากโครงการให้ชัดเจน และหากเป็นไปได้ ควรให้วิศวกรหรือผู้เชี่ยวชาญช่วยตรวจสอบก่อนรับมอบ เพื่อให้มั่นใจว่าบ้านของคุณจะอยู่ได้อย่างปลอดภัย และไร้ปัญหากวนใจในอนาคตครับ
ติดตามพวกเราได้อีกช่องทางที่ เพจเฟซบุ๊ค : WENAT รับตรวจบ้าน ตรวจคอนโด รับตรวจสอบอาคาร
อยากรู้จักเรา : เกี่ยวกับเรา