ฉาบสกิม คืออะไร? เทคนิคผิวเรียบที่มากกว่าความสวยงาม 

ฉาบสกิม คืออะไร? เทคนิคผิวเรียบที่มากกว่าความสวยงาม

ในงานตกแต่งผนังภายใน หลายคนอาจคุ้นเคยกับคำว่า “ฉาบขัดมัน” หรือ “ฉาบเรียบ” แต่หากจะให้ได้ผนังที่เรียบเนียนไร้รอยต่ออย่างแท้จริง โดยเฉพาะสำหรับงานที่ต้องการความเรียบระดับสูง เช่น งานทาสีภายในบ้าน งานโชว์ผนังปูนเปลือย หรือผนังสำหรับงานตกแต่งลอฟท์ การ “ฉาบสกิม” จึงกลายเป็นหนึ่งในเทคนิคที่ถูกเลือกใช้อย่างแพร่หลายในปัจจุบัน 

ฉาบสกิม คืออะไร? 

“ฉาบสกิม” หรือ Skim Coat คือกระบวนการฉาบผิวผนังด้วยปูนชนิดพิเศษที่มีความละเอียดมาก เพื่อปรับแต่งผิวหน้าให้เรียบเนียนในระดับที่งานฉาบทั่วไปให้ไม่ได้ 

ลักษณะของเนื้อปูนที่ใช้ฉาบสกิม จะมีความเนียน ละเอียดมากกว่าปูนฉาบทั่วไป มีความหนาแน่นน้อย มีความยืดหยุ่น และยึดเกาะได้ดี จึงเหมาะกับการฉาบบางๆ ในความหนาเพียง 0.5 – 3.0 มม. เท่านั้น 

ความต่างระหว่าง “ฉาบขัดมัน” กับ “ฉาบสกิม” 

แม้ผลลัพธ์สุดท้ายของทั้งสองวิธีจะเป็น “ผนังที่เรียบ” เช่นเดียวกัน แต่กระบวนการและผลลัพธ์เชิงคุณภาพมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน 

รายละเอียด ฉาบขัดมัน ฉาบสกิม 
ช่วงเวลาในการทำ ทำขณะที่ปูนฉาบยังเปียกอยู่ ทำหลังจากฉาบปูนแห้งแล้ว 
ความหนา 5 – 10 มม. (ขึ้นกับชั้นปูนฉาบ) 0.5 – 3.0 มม. 
วัสดุ ปูนฉาบทั่วไป + ผงปูนโรยหน้า ปูนสกิม (สูตรเฉพาะ) 
ผิวสำเร็จ เรียบแบบกึ่งมัน มีเม็ดทรายจางๆ เรียบเนียนเสมอกันทั้งแผ่น 
ความเหมาะสม งานฉาบปูนทั่วไป งานภายใน / ผนังโชว์ / งานตกแต่ง 

จุดเด่นของงานฉาบสกิม 

  1. ผิวผนังเรียบเสมอทั้งแผ่น 
    ลดปัญหารอยขูด รอยเกรียง หรือรอยต่อที่มักพบในงานฉาบปูนธรรมดา เหมาะกับงานทาสีที่ต้องการผิวเรียบพิเศษ เช่น สีพ่น สีเท็กซ์เจอร์ หรือสีพิเศษแบบเงา/ด้าน 
  1. รองรับงานตกแต่งลวดลาย 
    ปัจจุบันมีเทคนิคการสกิมที่สร้างผิวแบบ “ปูนเปลือย” “ลอฟท์” หรือ “คัลเลอร์ซีเมนต์” ที่ให้ทั้งความเรียบ และความดิบในตัวเดียว เหมาะกับบ้านสมัยใหม่หรือร้านค้าที่ต้องการความโดดเด่น 
  1. ลดความหนาของการตกแต่ง 
    เนื่องจากฉาบบางเพียงไม่กี่มิลลิเมตร จึงช่วยประหยัดพื้นที่ และเหมาะกับงานรีโนเวตที่ไม่ต้องการรื้อผนังออก 
  1. ลดรอยแตกร้าวขนาดเล็ก 
    ปูนสกิมมีความยืดหยุ่นดีกว่าปูนฉาบทั่วไป จึงสามารถปกปิดรอยแตกร้าวเล็กๆ ได้ดี และยังลดโอกาสการแตกร้าวในอนาคตด้วย 

ประเภทของปูนสกิม 

วัสดุที่ใช้ในงานฉาบสกิมแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่ 

1. ปูนสกิมสำหรับงานตกแต่งภายใน (Interior Skim Coat) 

  • ใช้สำหรับผนังฉาบภายในที่ต้องการความเรียบพิเศษ 
  • นิยมใช้คู่กับงานทาสี 
  • มีให้เลือกทั้งแบบผสมเสร็จ และแบบผงที่ต้องผสมน้ำเอง 

2. ปูนสกิมสำหรับภายนอก (Exterior Skim Coat) 

  • ต้องทนต่อแสงแดด ความชื้น และฝน 
  • มีคุณสมบัติกันน้ำได้ในระดับหนึ่ง 
  • นิยมใช้ร่วมกับปูนฉาบผสมไฟเบอร์ หรือเสริมด้วยตาข่ายกันแตกร้าว 

ขั้นตอนการฉาบสกิม (โดยย่อ) 

  1. เตรียมพื้นผิวผนัง 
  • ผนังต้องแห้งสนิท ไม่มีฝุ่น คราบน้ำมัน หรือรอยแตกร้าวใหญ่ 
  • หากผนังไม่เรียบ ควรฉาบปูนปรับระดับก่อน 
  1. ผสมปูนสกิม 
  • ใช้ตามสัดส่วนที่ผู้ผลิตกำหนด 
  • คนให้เข้ากันจนเนื้อเนียน เหมือนครีมข้น 
  1. ฉาบด้วยเกรียงสแตนเลส 
  • ปาดปูนให้เรียบตามแนวผนัง ใช้ความหนาตามที่ต้องการ 
  • ถ้าต้องการเรียบมาก อาจฉาบ 2 ชั้น โดยปล่อยให้ชั้นแรกแห้งก่อน 
  1. ขัดผิวหน้า (ถ้าต้องการ) 
  • ใช้กระดาษทรายละเอียดเก็บความเรียบอีกครั้ง 
  • จากนั้นปล่อยให้แห้งสนิทก่อนทำสีหรืองานตกแต่งต่อไป 

ข้อควรระวังในการฉาบสกิม 

  • อย่าฉาบบนผนังที่ยังมีความชื้นสูง เพราะจะทำให้ปูนสกิมไม่เกาะผนัง 
  • ห้ามฉาบหนาเกินกำหนด เพราะอาจแตกร้าวหรือหลุดร่อน 
  • ใช้ช่างที่มีประสบการณ์ โดยเฉพาะงานโชว์ผนัง หรือผิวพิเศษที่ต้องอาศัยฝีมือ 

สรุป : ฉาบสกิม ไม่ใช่แค่ “ผนังเรียบ” แต่คือ “งานตกแต่งที่มีคุณภาพ” 

ในปัจจุบัน การฉาบสกิมไม่ได้ถูกใช้เพียงเพื่อแก้ผนังไม่เรียบหรือเป็นแค่ขั้นตอนก่อนทาสีเท่านั้น แต่ยังกลายเป็นหนึ่งในองค์ประกอบงานตกแต่งที่เพิ่มมูลค่าให้บ้านได้มากทีเดียว โดยเฉพาะในบ้านสไตล์มินิมอล ลอฟท์ หรือคอนเทมโพรารี ที่ต้องการโชว์ผิวผนังให้เป็นส่วนหนึ่งของการออกแบบ 

ดังนั้น หากคุณเป็นเจ้าของบ้านที่ให้ความสำคัญกับ “รายละเอียด” และ “คุณภาพของผนัง” การเลือกฉาบสกิมในจุดที่เหมาะสม อาจเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาวอย่างแท้จริง 

ติดตามพวกเราได้อีกช่องทางที่ เพจเฟซบุ๊ค : WENAT รับตรวจบ้าน ตรวจคอนโด รับตรวจสอบอาคาร

อยากรู้จักเรา : เกี่ยวกับเรา

โปรโมชั่นดีๆจาก Wenat

โปรโมชั่นลด 1,000.- บาท Wenat
โปรโมชั่นลด 800.- บาท Wenat
โปรโมชั่นลดตรวจฟรีรอบสอง Wenat

บทความที่เกี่ยวข้อง